คนท้องกินยาคูลท์ได้ไหม หนึ่งในสิ่งที่มีประโยชน์ ที่คุณแม่ควรกิน!

“ยาคูลท์” ถือว่าเป็นนมที่ค่อนข้างมีประโยชน์ต่อร่างกาย และเป็นที่โปรดปรานของใครหลายคน แต่ถึงแม้จะเป็นสิ่งที่ค่อนข้างมีประโยชน์ แต่คุณแม่อ 

 1945 views

“ยาคูลท์” ถือว่าเป็นนมที่ค่อนข้างมีประโยชน์ต่อร่างกาย และเป็นที่โปรดปรานของใครหลายคน แต่ถึงแม้จะเป็นสิ่งที่ค่อนข้างมีประโยชน์ แต่คุณแม่อย่างเราก็ยังไม่มั่นใจว่าเราสามารถกินยาคูลท์ได้จริงไหม หรือหากเรากินเข้าไปในร่างกาย เราควรกินในปริมาณเท่าไหร่ เพื่อที่เราและลูกในท้องจะได้รับประโยชน์มากที่สุด เรามาค้นหาคำตอบ คนท้องกินยาคูลท์ได้ไหม กันเลยดีกว่า



คนท้องกินยาคูลท์ได้ไหม? กินแล้วส่งผลดีอย่างไร

อย่างที่รู้กันดีค่ะว่า ยาคูลท์เป็นนมที่ช่วยในเรื่องของระบบขับถ่ายและระบบย่อยอาหาร เพราะเป็นนมที่ค่อนข้างประกอบด้วยแบคทีเรียชนิดดีอย่าง lactobacillus casei ซึ่งต้องบอกว่าแบคทีเรียชนิดนี้จะเข้าไปช่วยป้องกันอาการท้องผูก อาการท้องเสียให้กับคุณแม่ได้ พูดเลยค่ะว่าเป็นนมที่ค่อนข้างมีประโยชน์มาก ๆ แม่ท้องก็สามารถดื่มได้ ยิ่งใครที่กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับระบบขับถ่าย หรือระบบย่อยอาหารแล้วล่ะก็ หนึ่งในทางเลือกที่จะช่วยทำให้อาการเหล่านี้ดีขึ้นได้ อาจจะมาจากการกินยาคูลท์ก็เป็นได้



ประโยชน์ของยาคูลท์ที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม

สำหรับใครที่ชอบกินยาคูลท์เป็นประจำกันอยู่แล้ว สิ่งนี้นอกจากจะเป็นนมที่มีรสชาติอร่อย และทำให้คุณแม่รู้สึกสดชื่นขึ้นมาได้แล้วนั้น สิ่งนี้ยังช่วยส่งผลดีต่อร่างกายของคุณแม่และลูกน้อยได้อีกด้วย ส่วนจะส่งผลดีในเรื่องไหนบ้างนั้น มาดูกันเลย
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกินโยเกิร์ตได้ไหม ช่วยบำรุงครรภ์ได้จริงหรือไม่?


คนท้องกินยาคูลท์ได้ไหม


1. ช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร

การที่คุณแม่ได้รับจุลินทรีย์ชนิดโพรไบโอติกส์เข้าไปในทุก ๆ วัน เชื่อหรือไม่คะว่า สิ่งเหล่านี้ก็จะเข้าไปช่วยลดกรดในกระเพาะอาหารให้กับคุณแม่ได้ดีเลย อีกทั้งยังช่วยลดอาการแสบร้อนให้กับคุณแม่ได้ด้วย ต้องบอกว่าหากคุณแม่ชอบมีอาการแบบนี้เกิดขึ้นอยู่บ่อย ๆ เราก็อาจจะลองกินยาคูลท์ดูก่อนนะคะ เชื่อว่าอาการจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน



2. ช่วยป้องกันไม่ให้เป็นภูมิแพ้

หากคุณแม่อยากให้ลูกของเราเติบโตมาเป็นเด็กที่มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ เราก็อาจจะลองหันมากินยาคูลท์กันให้มากขึ้น เพราะเครื่องดื่มตัวนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้ลูกของเราเป็นภูมิแพ้ได้ เรียกได้ว่านอกจากความอร่อยที่เราจะได้รับไปแล้วนั้น เรื่องของประโยชน์ก็ค่อนข้างส่งผลดีต่อร่างกายได้ไม่น้อยเลยนะคะ



3. ช่วยป้องกันการเกิดครรภ์เป็นพิษ

การที่คุณแม่จะมีภาวะครรภ์เป็นพิษเกิดขึ้นมานั้น แน่นอนว่าค่อนข้างมีหลายปัจจัยมาก ๆ เพราะฉะนั้นหากใครที่อยากให้ลูกในท้องของเราปลอดภัยและเสี่ยงต่อการเป็นครรภ์เป็นพิษให้น้อยที่สุด เราก็อาจจะหันมาดื่มนมที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากยิ่งขึ้น โดยอาจจะเลือกเป็นยาคูลท์ด้วยก็ได้นะคะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : รู้ทัน อาการครรภ์เป็นพิษ อันตรายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการตั้งครรภ์



4. ช่วยลดอาการเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานได้

เชื่อหรือไม่คะว่า การที่คุณแม่เลือกกินยาคูลท์นั้น สิ่งนี้จะเข้าไปช่วยลดอาการเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานให้กับคุณแม่ได้ เพราะฉะนั้นหากใครที่ไม่อยากเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน หรือกลัวว่าตัวเองจะเป็นโรคนี้ด้วย เราก็อาจจะต้องระมัดระวังเรื่องการกินให้มากขึ้น โดยอาจจะลองหันมากินยาคูลท์ควบคู่ไปด้วยได้เลย



5. ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบลำไส้

สำหรับใครที่ค่อนข้างมีปัญหาในเรื่องของลำไส้ สิ่งเหล่านี้ค่อนข้างเกิดขึ้นได้ง่าย เพราะฉะนั้นหากคุณแม่คนไหนที่กำลังรู้สึกว่าตัวเองชอบมีอาการท้องผูก หรือขับถ่ายไม่เป็นปกติเกิดขึ้นอยู่บ่อย ๆ นอกจากการรักษาที่ถูกต้องตามขั้นตอนแล้วนั้น หนึ่งในสิ่งที่จะช่วยทำให้อาการของคุณแม่ดีขึ้นได้ นั่นคือ ยาคูลท์นั่นเองค่ะ



สิ่งที่แนะนำในการกินยาคูลท์ที่ดีควรทำอย่างไรบ้าง?

อย่างที่รู้กันดีนะคะว่า ยาคูลท์เป็นสิ่งที่ค่อนข้างประโยชน์และส่งผลดีต่อร่างกายได้ก็จริง แต่หากใครที่อยากให้ส่งผลดีต่อร่างกายได้มากกว่าเดิมนั้น เราอาจจะต้องทำสิ่งเหล่านี้ควบคู่ไปด้วย ส่วนจะต้องทำอย่างไรบ้าง เรามาทำความเข้าใจไปพร้อมกันได้เลยนะคะ บอกเลยว่าไม่ยาก
บทความที่เกี่ยวข้อง : นมสำหรับคนท้อง ควรเลือกดื่มอย่างไร? ให้ส่งผลดีต่อสุขภาพ



คนท้องกินยาคูลท์ได้ไหม


1. นำไปแช่ในตู้เย็น

อย่างแรกเลยที่เราจะได้กินยาคูลท์ได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น เราอาจจะต้องนำยาคูลท์ที่ซื้อมาแล้วแช่ไว้ในตู้เย็น เพื่อให้ยาคูลท์อยู่อุณหภูมิที่เหมาะสม เพราะเมื่อไหร่ที่เราไม่ได้นำยาคูลท์มาแช่ในตู้เย็น และปล่อยให้ยาคูลท์อยู่ในอุณหภูมิที่ร้อนจนเกินไป สิ่งนี้ก็อาจจะทำให้ยาคูลท์ที่เราซื้อมานั้นเสียคุณภาพ หรือไม่สามารถกินอีกได้เลย



2. ดูวันหมดอายุ

นอกเหนือจากสิ่งอื่น ๆ แล้วนั้น คุณแม่อาจจะต้องทำการตรวจเช็กวันหมดอายุของยาคูลท์ตามไปด้วย โดยส่วนใหญ่ยาคูลท์จะอยู่ได้นานประมาณ 45 วัน ซึ่งเริ่มนับจากวันผลิต เพราะฉะนั้นถึงแม้คุณแม่จะนำยาคูลท์ไปแช่ในตู้เย็นเพื่อรักษาอุณหภูมิแล้วนั้น สิ่งที่คุณแม่ควรต้องดูต่อมาเลยคือวันหมดอายุนะคะ เพราะเมื่อไหร่ที่เราเผลอกินเข้ายาคูลท์ที่หมดอายุเข้าไป จากที่จะให้ประโยชน์และส่งผลดีต่อร่างกายของคุณแม่แล้วนั้น สิ่งนี้ก็อาจจะเป็นโทษต่อร่างกายของคุณแม่และลูกในท้องได้เช่นกัน



3. ไม่ควรแช่ในอุณหภูมิที่เย็นจนเกินไป

แน่นอนค่ะว่าการที่เรากินยาคูลท์เย็น ๆ เข้าไปสิ่งนี้ก็อาจจะทำให้คุณแม่รู้สึกสดชื่น และสบายใจขึ้นมาได้ แต่เราก็ไม่ควรที่จะนำยาคูลท์ไปแช่ในช่องฟรีซ หรือช่องแช่แข็ง เพราะเมื่อไหร่ที่ยาคูลท์รู้สึกเย็นจนเกินไป สิ่งนี้ก็อาจจะทำให้ขวดของยาคูลท์เกิดการระเบิด หรือเสื่อมสภาพขึ้นมาได้เลย ดังนั้นควรต้องระวังกันให้มาก ๆ นะคะ



4. ไม่ควรกินในปริมาณที่มากจนเกินไป

สำหรับคุณแม่บางคนที่คิดมายาคูลท์เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ ดังนั้นเราก็เลยเลือกที่จะกินเฉพาะยาคูลท์ หรือบางคนก็อาจจะกินยาคูลท์แทนข้าว หากใครที่คิดแบบนี้แล้วล่ะก็ บอกเลยค่ะว่าเป็นสิ่งที่ผิดนะคะ เพราะเมื่อไหร่ที่เราเลือกกินเพียงแค่ยาคูลท์ โดยที่ไม่ได้เลือกกินอาหาร หรือเครื่องดื่มชนิดอื่น ๆ เลย สิ่งนี้ก็อาจจะทำให้คุณแม่ขาดสารอาหารขึ้นมาได้ง่าย ๆ เลย



5. ทานคู่กับอาหารชนิดอื่น ๆ

สำหรับใครที่อยากให้การกินยาคูลท์ของเราให้ดูอร่อยกันมากขึ้น เราก็อาจจะเลือกกินคู่ยาคูลท์ควบคู่กับสิ่งอื่น ๆ ตามไปด้วย ซึ่งเราอาจจะเลือกกินคู่กับซีเรียล หรือสมูทตี้ก็ได้เลยค่ะ บอกเลยว่าเป็นอะไรที่อร่อยมาก ไม่แน่หากใครได้ลองชิมอาจจะชอบเมนูนี้ไปเลยก็ได้




คนท้องกินยาคูลท์ได้ไหม


จากที่เราได้พาคุณแม่หลายคนมาทำความรู้จักกับประโยชน์ และสิ่งอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับยาคูลท์แล้วนั้น บอกเลยค่ะว่าสิ่งนี้เป็นอะไรที่มีประโยชน์และค่อนข้างส่งผลดีต่อร่างกายของคุณแม่และลูกน้อยมาก ๆ เพราะฉะนั้นใครที่กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับระบบขับถ่าย หรือระบบย่อยอาหารแล้วนั้น เราอาจจะต้องหันมากินยาคูลท์กันให้มากขึ้นนะคะ


บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

รู้หรือไม่! คนท้องกินโหระพาได้ไหม กินแล้วส่งผลกระทบต่อลูกในท้องหรือเปล่า?

คนท้องกินแตงกวาได้ไหม กินอย่างไร? ให้ดีต่อสุขภาพ

คนท้องกินลำไยได้ไหม ผลไม้แสนอร่อย ที่ใคร ๆ ก็ชอบกิน!

ที่มา : 1, 2